เป็นการยากที่จะหาเส้นแบ่งของธุรกิจในอุตสาหกรรมด้านการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการธนาคาร ด้านการประกัน รวมถึง ธุรกิจด้านหลักทรัพย์ ออกจากกันได้ แต่บริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านการเงินอยู่นี้ กำลังพยายามที่จะหาช่องทาง ที่จะเพิ่มรายได้จากลูกค้าให้มากขึ้น โดยได้ริเริ่มในการนำอินเทอร์เน็ตมาใช้ โดยได้ออกแบบมาเพื่อเสริมการบริการด้านการเงิน ให้กับลูกค้าในการที่จะรับบริการด้านสะดวกมากยิ่งขึ้น ทางด้านภาคธุรกิจเองก็ได้มีการนำเทคโนโลยีด้านอินเทอร์เน็ต มาช่วยเสริมให้การดำเนินงานหรือที่เรียกกันว่า back-office เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น
โซลูชันด้านอินเทอร์เน็ตนั้นได้ถูกพิสูจน์แล้วว่า มีคุณค่าอย่างมากในหลายต่อหลายบริษัท โดยบางแห่งนั้นความคุ้มค่าในการลงทุน ได้มาจากการใช้เทคโนโลยีมาปรับปรุงการทำงานภายในออฟฟิส และเพิ่มช่องทางในการขาย และให้การบริการแก่ลูกค้าธุรกิจด้านการเงินการธนาคารนี้ได้มีการลงทุนอย่างมาก ในการเพิ่มช่องทางที่จะติดต่อกับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มสาขาอย่างที่ทำกันมาเป็นเวลานาน การติดตั้งตู้ ATM เพิ่มในสถานที่ต่างๆ ตลอดจนศูนย์บริการลูกค้า และเว็บไซด์ โดยระบบต่างๆ ได้เชื่อมต่อถึงกันจากทุกช่องทางการสื่อสาร เข้ากับระบบฐานข้อมูลลูกค้า โดยไม่มีบุคคลมาเกี่ยวข้องในระบบเลย
สถาบันด้านการเงินและการธนาคารต่างๆ ได้พยายามใช้ทรัพยากรด้านบุคลากรที่มีอยู่ ให้เกิดคุณค่ามากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทั้งด้านการบริการลูกค้า และกับองค์กรเอง ทุกวันนี้พนักงานขององค์กร จะเป็นฝ่ายรอให้ลูกค้าร้องขอบริการอีกไม่ได้แล้ว ในอันที่จะสร้างประโยชน์ให้กับองค์กรและลูกค้านั้น พนักงานต้องทำตนเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านการเงินแก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ และด้วยเหตุผลที่กล่าวมานี้ การพัฒนาทรัพยากรบุคคลโดยใช้เทคโนโลยีด้านอินเทอร์เน็ตมาช่วยนั้น เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับสถาบันด้านการเงินและการธนาคารในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอีเลิร์นนิ่ง หรือข้อมูลทางด้านบุคคลแบบออนไลน์ ตลอดจนกระบวนการดำเนินธุรกิจแบบดิจิตอล ที่เป็นไปแบบอัตโนมัติ และออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งในการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์จากการทำธุรกิจแบบเดิม มาเน้นบทบาททางด้านการให้การปรึกษา จากผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินการธนาคารแก่ลูกค้ามากยิ่งขึ้น
การให้บริการด้านการเงินการการธนาคารนั้น เรื่องความเสถียรของระบบเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก และสถาบันด้านการเงินหลายแห่ง ที่ได้ตัดสินใจนำกลยุทธ์ด้านอินเทอร์เน็ตมาใช้งาน ก็เพราะเหตุผลนี้เป็นสำคัญ หลายองค์กรได้ผ่านพ้น และเรียนรู้จากประสบการณ์ในอดีตที่ยากลำบากมามาก ที่พบว่าไม่ใช่เป็นเรื่องดีเลยที่จะเก็บข้อมูลต่างๆ ไว้ในที่แห่ง เดียวรวมทั้งยังไม่คุ้มค่าต่อการสูญเสียเลย ถ้ามีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น และจากบทเรียนที่ได้เรียนรู้มานั้นทำให้ทุกวันนี้ หลายต่อหลายแห่งได้ทำให้ข้อมูลข่าวสารต่างๆ ขององค์กร รวมทั้งกระบวนการทางธุรกิจต่างๆ นั้น เป็นไปอย่างมีระบบสำรองที่มีประสิทธิภาพสูง โดยได้ใช้ระบบเครือข่ายใยแก้วนำแสง มาเชื่อมต่อระหว่างศูนย์ข้อมูลหลายแห่งเข้าด้วยกัน