การบริหารเงินอย่างมีประสิทธิภาพ

ในปัจจุบันมีกิจการบางกิจการทำการกู้ยืมเงินระยะยาวมาลงทุนในทรัพย์สินระยะสั้นมากขึ้น ซึ่งลักษณะนี้ก็ถือว่าเป็น conservative แต่ถ้าเป็นกรณีที่กู้ยืมระยะสั้นแล้วนำมาลงทุนในทรัพย์สินระยะยาว การลงทุนจะมีปัญหาขึ้นมา คือ ภาระที่จะต้องจ่ายชำระหนี้สินที่จะต้องจ่ายในปีหน้า ซึ่งกิจการจะต้องจัดหาเงินมาชำระหนี้ แต่เนื่องจากกิจการนำหนี้ระยะสั้นนี้มาลงทุนในทรัพย์สินระยะยาวซึ่งให้ผลตอบแทนช้ามาก จึงทำให้เกิดปัญหาในการหาเงินมาชำระหนี้ไม่ทัน ดังนั้นในการลงทุนในทรัพย์สินระยะยาวที่ใช้เวลาในการที่จะได้รับผลตอบแทนนาน ก็ควรจะหาเงินจากหนี้สินระยะยาวมากกว่าหนี้สินระยะสั้น
แนวทางการบริหารเงินอย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบไปด้วย
1.ต้องมีการวางแผน แล้วพยากรณ์การใช้เงินก่อน โดยจะต้องมีค่าใช้จ่ายเงิน อย่างไรบ้าง แล้วเราจะมีการได้เงินมาอย่างไรบ้าง จำเป็นต้องพยากรณ์อย่างมีประสิทธิภาพ คือต้องพยากรณ์สมเหตุสมผลควบคู่ไปกับการทำงบประมาณ
2.ต้องมีการจัดหาเงิน คือเงินกู้ จากสถาบันการเงินอะไรต่าง ๆ และเงินของตัวเราเอง หรือเงินของเพื่อน ในแง่ของการร่วมลงทุน เมื่อมีการวางแผนแล้ว ต้องมีการนำเสนอแผนงานการลงทุนการใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพ
3.ต้องมีการใช้เงินได้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ ตามแผนงานที่วางไว้แล้ว ผู้ประกอบการหลายท่าน วางแผนไว้แล้ว แต่เวลาการใช้เงินไม่เป็นไปตามแผนการ ซึ่งการใช้เงินแบบผิดวัตถุประสงค์จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อองค์กรมากมาย เพราะฉะนั้นการใช้เงินให้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ตัวนี้สำคัญมากกว่าการพยากรณ์และการจัดหาเงินทุนเสียอีก
สำหรับเทคนิคในการบริหารเงิน ประกอบไปด้วย
1.ปรับเปลี่ยนโครงสร้างการใช้จ่ายเป็นแบบผันแปร ในการบริหารกิจการควรพิจารณาการบริหารงานให้มีโครงสร้างต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายเป็นโครงสร้างผันแปรมากกว่าโครงสร้างคงที่ การบริหารให้มีต้นทุนแบบผันแปรก็เหมือนกับได้พนักงานเป็นหุ้นส่วนแล้ว ข้อสำคัญก็คือวางแผนตอบแทนเขา วางอย่างยุติธรรม
2.ควบคุมงบประมาณ โดยมีการวางแผนและควบคุมประเมิน วิเคราะห์สาเหตุที่ทำให้แผนการเงินไม่บรรลุและสร้างความรับผิดชอบร่วมกันของพนักงาน
3.ลดการสูญเสียและความเสียหายของสินค้า โดยการควบคุมประสิทธิภาพการผลิต
4.อย่าลงทุนผิดประเภท ถ้าเป็นไปได้ลดการลงทุนสินทรัพย์ลง

This entry was posted in ธุรกิจ and tagged . Bookmark the permalink.

Comments are closed.